ในที่สุดก็ได้เรียนแพทย์สักทีนะเรา – ซีรี่ส์เรียนในรัสเซีย ตอนที่ 8
เขียนวันที่ 3/3/2025 ผ่านมาแล้ว 17 ปี พยายามจะนึกรายละเอียดให้ได้มากที่สุด
หลังจากได้ข่าวว่าทางกระทรวงฯ ผู้ให้ทุนอนุมัติให้ย้ายมหาวิทยาลัยได้แล้วก็เดินทางลงใต้ทันที เนื่องจากที่รัสเซียจะเปิดเทอมวันที่ 1 กันยายน ทุกปี ไม่อยากให้เข้าเรียนช้ากว่าเพื่อน จะได้เรียนหมอเต็มตัวแล้ว แถมยังได้อยู่ที่บ้านแฟน อะไรจะเป็นใจแบบนี้ ตื่นเต้นน!
พูดเรื่องส่วนตัวมาเยอะ มาดูเรื่องการเรียนดีกว่า ตอนนี้บางทีก็ทำคนเดียว บางทีก็มียูเลียช่วย สามารถสื่อสารได้พอควรแล้วแต่จะพูดไม่ไวเพราะยังต้องนึกคำศัพท์อยู่ พอทำเอกสาร ตรวจสุขภาพ อะไรต่าง ๆ นานา เสร็จ ก็เริ่มเรียน เพื่อนร่วมคลาสจะมี 2 กลุ่มหลัก คือพวกอาหรับที่เป็นผู้ชายหมด กับพวกทาจิกิสถานที่เป็นผู้หญิง 3 ชาย 2 พวกอาหรับก็จะชอบเล่น ชอบคุยเสียงดัง ว่าง ๆ ก็เล่นวิ่งไล่จับกัน ส่วนสาว ๆ จากทาจิก็จะขยันเรียนหน่อย ส่วนมากก็จะยืมเลคเชอร์จากพวกนี้แหละมาถ่ายเอกสารไว้
การเรียนที่รัสเซียก็จะคล้าย ๆ ที่อื่นทั่วไปซะส่วนมาก ยกเว้นที่เราจะมีสมุดเกรดไว้ตามล่าลายเซ็นหลังจากเราสอบผ่านแล้ว เรียกว่า Зачётная книга หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Зачётка ถ้าทำหายทีมีร้อง
เกรดในรัสเซียก็จะมี 5 ระดับ ถ้าเป็นวิชาที่มีเกรดจะมีดังนี้
- 5 - ดีเยี่ยม Отлично
- 4 - ดี Хорошо
- 3 - พอใจ Удовлетворительно
- 2 - ไม่น่าพอใจ (ไม่ผ่าน) Неудовлетворительно
ส่วนต่ำกว่า 2 ลงไปไม่ค่อยมีคนให้เพราะแค่ 2 ยังไงก็ไม่ผ่าน นอกจากครูจะกวนนักเรียนจริง ๆ
แล้วยังมีวิชาที่ไม่เก็บเกรด จะมีผลแค่ผ่านและไม่ผ่าน คือ ผ่าน - Зачтено และ ไม่ผ่าน Не зачтено
หลาย ๆ วิชาจะเป็นวิชาแบบมีเรียนในภาคการเรียนต่อไปก็จะไม่ค่อยเก็บเกรด หรือเป็นพวกวิชาทั่วไป
วิชาที่เรียนใน 2 ปีแรกก็มีดังนี้ (หลักสูตรเก่า ตอนนี้น่าจะปรับอะไรใหม่หมดแล้วแหละ)
ภาคการศึกษาที่ 1
กายวิภาคศาสตร์ (Anatomy)
เรียนเกี่ยวกับโครงสร้างร่างกายมนุษย์ รวมถึงระบบต่างๆ เช่น กระดูก กล้ามเนื้อ และอวัยวะภายใน ต้องจำชื่อโครงสร้างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนนูน ส่วนเว้า ปุ่ม ต่าง ๆ ถ้าภาษารัสเซีย ไม่ได้ก็ต้องลาติน ซึ่งจะมีวิชาภาษาลาตินให้เราเรียนด้วยเพื่อให้เราเข้าใจรากศัพท์และจำได้ง่ายขึ้น (มั้ง) ได้ดูกระดูกจริง ชิ้นส่วนจริง แต่จะไม่ได้ผ่า เขาตัดมาแช่ให้เราดูเป็นส่วน ๆ ตามที่เรียนชีววิทยาและนิเวศวิทยา (Biology & Ecology)
ศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศ และความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ไม่ค่อยมีอะไร จำอย่างเดียว มีคำนวณพวกพันธุกรรมบ้างถ้าจำไม่ผิดเคมีอินทรีย์ชีวภาพ (Bioorganic Chemistry)
ศึกษาเคมีอินทรีย์ที่เกี่ยวข้องกับชีวภาพ รวมถึงสารชีวโมเลกุล เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ต้องมานั่งจำโครงสร้างหมู่ฟังก์ชันว่าโครงสร้างแบบไหนต้องเรียกว่าอะไร มีคำลงท้ายว่าอะไร เช่น -ไคน์ -ไฮด์ -ออกซี่ อะไรพวกนั้นคอมพิวเตอร์สารสนเทศ (Informatics)
ศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เบื้องต้นจริง ๆ ง่าย ๆ ไม่ยากเลย เพราะอาจจะชอบคอมพิวเตอร์ ไอที อะไรแบบนี้อยู่แล้วด้วยล่ะมั้งประวัติศาสตร์รัสเซีย (History)
เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของประเทศรัสเซียตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เรียนคล้าย ๆ กับตอนที่เรียนเตรียมแพทย์ เลยไม่ต้องจำอะไรเพิ่มมากภาษาลาตินและศัพท์เทคนิคเฉพาะทางการแพทย์ (Latin & Medical Terminology)
เรียนรู้รากศัพท์ภาษาละตินที่ใช้ในวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิชานี้ต้องนั่งท่อง นั่งแปลจากลาตินเป็นรัสเซีย รัสเซียเป็นลาติน แล้วเพิ่งเรียนภาษารัสเซียมาปีเดียว เป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายมาก อาจารย์ก็ดุมากเหมือนอาจารย์ภาษาทั่วไปคณิตศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ (Mathematics & Informatics)
วิชานี้ชื่อดูทั่วไปแต่จริง ๆ แล้วคือแคลคูลัส หาลิมิต อนุพันธ์ อินทิเกรต สอบจนท้อ เรียนตอน 7 โมงเช้าอีกแล้วคิดดูหน้าหนาวรัสเซียที่พระอาทิตย์จะโผล่มาตอน 9 - 10 โมงเช้า ง่วงก็ง่วงต้องนั่งรถออกจากบ้านฝ่าหิมะไปเรียน วิชานี้เลยโดดบ่อย ผลคือสอบไปน่าจะ 5 รอบถึงผ่าน ครูสอนก็เป็นลูกของครูวิชาฟิสิกส์เคมีทั่วไป (General Chemistry)
ศึกษาองค์ประกอบทางเคมีและปฏิกิริยาทางเคมีที่เกี่ยวข้องกับชีววิทยาและเภสัชศาสตร์ เคมีทั่ว ๆ ไปมีทั้งทฤษฎีและทดลอง ครูก็ไม่ค่อยอยากให้อาหรับทดลองเพราะมันไม่ชอบอ่านวิธีทดลองมาก่อน แล้วผลที่ออกมาก็จะผิด ๆ สอบควิซค่อนข้างบ่อยภาษารัสเซีย (Russian Language)
เรียนรู้ภาษาและการสื่อสารภาษารัสเซียในระดับพื้นฐาน วิชานี้เข้าบ้างไม่เข้าบ้าง เพราะเรียนรวมกับหลาย ๆ คน บางคนจบปีเตรียมมาได้ไงไม่รู้ พูดยังไม่รู้เรื่องเลย เวลาเราเข้าเรียนก็ต้องไปนั่งอ่านเองแล้วก็ discuss กับครูว่าเรื่องเกี่ยวกับอะไร มีแนวคิดยังไง ส่วนมากจะมีเรื่องของประวัติและวัฒนธรรมรัสเซียแฝงในเรื่องที่น่าสนใจและน่าเรียนรู้ฟิสิกส์ (Physics)
ศึกษาพื้นฐานของฟิสิกส์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางชีววิทยาและการแพทย์ สอนทฤษฎีฟิสิกส์เบื้องต้น มีแลป แล้วก็การนำไปประยุกต์ใช้กับการแพทย์พลศึกษา (Physical Education)
ออกกำลังกายและเรียนรู้วิธีการรักษาสุขภาพร่างกาย วิชานี้จะเรียนในยิม วันไหนมีเรียนก็ต้องพกชุดง่าย ๆ สำหรับออกกำลังกายไปด้วย ก็เดินไปเดินมา ยกเวท เล่นพวกเครื่องออกกำลังกายให้ครบชั่วโมงตามที่เขากำหนด
ภาคการศึกษาที่ 2
กายวิภาคศาสตร์ (Anatomy)
เรียนต่อจากเทอมที่แล้ว ก็ต่อระบบของร่างกายต่าง ๆ ที่ยังไม่ได้เรียนชีววิทยาและนิเวศวิทยา (Biology & Ecology)
ก็ยังเรียนต่อจากเทอมที่แล้วเช่นกันชีวจริยธรรม (Bioethics)
เรียนรู้หลักจริยธรรมทางชีววิทยาและจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์ วิชานี้จะถกเถียงกันเรื่องจริยธรรมในการแพทย์ เช่น การทำแท้ง การทำการุณยฆาต ความคิดเห็นก็หลากหลายต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญเลยก็คือข้อกฎหมายว่ารับรองการกระทำพวกนี้ไหมจุลกายวิภาคศาสตร์, วิทยาเอ็มบริโอ, วิทยาเซลล์
ศึกษากายวิภาคระดับเซลล์ การเจริญเติบโตของเอ็มบริโอ และการทำงานของเซลล์ในร่างกาย ครูค่อนข้างดุ แต่สนุกดี เพราะเราต้องพกสมุดวาดรูปและสีไปด้วย เราจะต้องดูโครงสร้าเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกายด้วยกล้องจุลทรรศน์ แล้วก็วาดและระบายสีออกมาให้ใกล้เคียงที่สุด บางทีดูผิดเนื้อเยื่อก็ต้องวาดใหม่ ส่องกันจนตาเหล่ 555ภาษาลาตินและศัพท์เทคนิคเฉพาะทางการแพทย์ (Latin & Medical Terminology)
ยังเป็นอีกหนึ่งวิชาต่อเนื่อง แต่ช่วงหลังจะได้เรียกพวกรากศัพท์กรีกที่ใช้ในการแพทย์ ซึ่งคนละคำกับภาษาลาติน ส่วนใหญ่ศัพท์กรีกจะใช้ในการเรียกชื่อโรค เช่นVentriculus (กระเพาะอาหาร) vs. Gastritis (กระเพาะอาหารอักเสบ)
Ventriculus เป็นภาษาลาติน หมายถึงกระเพาะอาหาร หรือบางครั้งหมายถึงช่องภายในอวัยวะ เช่น ventricles ของสมองและหัวใจGastritis มาจากภาษากรีก γαστήρ (gastēr) ซึ่งหมายถึงกระเพาะอาหาร และเติม "-itis" ที่แปลว่า การอักเสบ → Gastritis = การอักเสบของกระเพาะอาหารCutis (ผิวหนัง) vs. Dermatitis (โรคผิวหนังอักเสบ)
Cutis เป็นภาษาลาตินที่หมายถึงผิวหนัง
Dermatitis มาจากภาษากรีก δέρμα (derma) ที่หมายถึงผิวหนังNasus (จมูก) vs. Rhinitis (จมูกอักเสบ/ภูมิแพ้จมูก)
Nasus เป็นลาติน แต่ Rhin- มาจากกรีก ῥίς (rhis) แปลว่าจมูกเคมีทั่วไป (General Chemistry)
ภาษารัสเซีย (Russian Language)
สังคมวิทยา (Sociology)
ศึกษาเกี่ยวกับหลักการการพัฒนาทางสังคมต่าง ๆ หลักการเมือง เศรษฐกิจ บริหารรัฐ ทั่วไปฟิสิกส์ (Physics)
พลศึกษา (Physical Education)
- กายวิภาคศาสตร์ (Anatomy)
เริ่มเรียนเกี่ยวกับระบบประสาทและเตรียมสอบแบบมีเกรด เรียนกันยาวนาน 3 เทอม ชีวเคมี (Biological Chemistry)
ศึกษาองค์ประกอบและปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์ โครงสร้างทางเคมีของสารชีวโมเลกุล เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ลิพิด กรดนิวคลีอิก พวกเอนไซม์ต่าง ๆ นานา จำกันไม่หวาดไม่ไหวอีกแล้วจุลกายวิภาคศาสตร์, วิทยาเอ็มบริโอ, วิทยาเซลล์ (Histology, Embryology, Cytology)
วัฒนธรรมศึกษา (Cultural Studies)
เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมรัสเซียและวัฒนธรรมโลก จำไม่ค่อยได้ว่าเรียนเกี่ยวกับอะไรแน่ น่าจะทำรายงานส่งสรีรวิทยา (Physiology)
ศึกษาเกี่ยวกับหน้าที่และกระบวนการทำงานของอวัยวะและระบบในร่างกายมนุษย์ เรียนตัวนี้จะเป็นกระบวนการของร่างกายในตอนปกติ ไว้เป็นพื้นฐานในการเรียนพวกโรคและความผิดปกติต่อไปการดูแลผู้ป่วยทั่วไปวอร์ดอายุรกรรม (General Patient Care - Therapy)
เรียนรู้ทฤษฎีและปฏิบัติเบื้องต้นเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยในวอร์ดอายุรกรรม ฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการวัดสัญญาณชีพ (Vital Signs), การให้ยา, การดูแลทางเดินหายใจ, การพยาบาลทั่วไปจิตวิทยาและจิตวิทยาศึกษา (Psychology & Pedagogy)
เรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์และหลักการสอนทางจิตวิทยา จำไม่ค่อยได้อีกเช่นกันภาษารัสเซีย (Russian Language)
พลศึกษา (Physical Education)
หลักปรัชญา (Philosophy)
เรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดทางปรัชญาในศาสตร์ทางการแพทย์และสังคม ถ้าจำไม่ผิดเหมือนไม่ได้โฟกัสเลย ครูสอนเรื่อยเปื่อย อ่านหนังสือไปสอบ เขียนบรรยายตามที่เราเข้าใจ
ชีวเคมี (Biological Chemistry)
ต่อจากเทอมที่แล้วหลักเศรษฐศาสตร์ (Economics)
เรียนรู้หลักพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์และการจัดการทรัพยากรหลักปรัชญา (Philosophy)
พลศึกษา (Physical Education)
ภาษารัสเซีย (Russian Language)
จิตวิทยาและจิตวิทยาศึกษา (Psychology & Pedagogy)
การดูแลผู้ป่วยทั่วไปวอร์ดศัลยกรรม (General Patient Care - Surgery)
ศึกษาเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยในแง่มุมของศัลยกรรมเบื้องต้น ฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการทำแผล, การดูแลผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะ, การจัดการกับอาการเจ็บปวดหลังการผ่าตัดสรีรวิทยา (Physiology)
จุลชีววิทยา, ไวรัสวิทยา, ภูมิคุ้มกันวิทยา (Microbiology, Virology, Immunology)
วัฒนธรรมศึกษา (Cultural Studies)
เวชศาสตร์ทหาร (Military & Extreme Medicine)
เรียนรู้แนวทางการปฐมพยาบาลและการแพทย์ฉุกเฉินในสถานการณ์ทางทหารและสภาวะสุดขั้ว ซึ่งจะมีหลายอย่างแตกต่างจากการรักษาในโรงพยาบาลปกติเพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินและเครื่องมือที่จำกัด มีเรียนเกี่ยวกับการทหารคร่าว ๆ แบบผิว ๆฝึกงานดูแลผู้ป่วยในแผนก (Practical Nursing) - 4 สัปดาห์
ฝึกปฏิบัติในโรงพยาบาลเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยในแผนกต่าง ๆ ในฤดูร้อน ต้องไปดูแลผู้ป่วยจริง ให้ยา ฉีดยากับคนจริง เป็นผู้ช่วยพยาบาล อย่างเท่ที่ได้เอาที่เรียนมาใช้จริง ผู้ป่วยที่ไปทำด้วยส่วนมากเป็นผู้ป่วยอายุรกรรม เป็นคนมีอายุ คุยง่าย ไม่ค่อยดื้อ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น