เมื่อผมสมัครทุนรัสเซีย - ซีรี่ส์เรียนในรัสเซีย ตอนที่ 1

เขียนไว้เมื่อวันที่ 02/05/2010 ณ เมืองตูลา ประเทศรัสเซีย

ขอเล่าย้อนความไปว่ารู้จักทุนรัฐบาลรัสเซียได้ยังไงประเดิมก่อนเลยแล้วกัน..

ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นช่วงปิดเทอม 2550 คุณกิ๊กคุยกับผมและบอกว่าคุณส้มโอ (เพื่อนสาขากายภาพบำบัด มธ ทั้งสองคน) นำใบปลิวเกี่ยวกับการเรียนแพทย์ราคาถูกที่ประเทศรัสเซียและจีนมาให้ ผมสนใจมากแล้วก็ไปหาข้อมูลว่าเชื่อถือได้ไหม ราคาก็ไม่แพงมากพอ ๆ กับเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนในสาขาอื่น (ที่ไม่ใช่แพทย์) ในประเทศไทย

หลังจากนั้นจึงไปปรึกษากับคุณพ่อว่าจะเป็นไปได้ไหมที่จะส่งผมไปเรียนแพทย์ที่รัสเซียหรือจีนเพราะว่าราคาก็ไม่แพงคุณพ่อตอบกลับมาว่า “เป็นไปไม่ได้หรอก พ่อไม่มีสตางค์พอที่จะจ่ายค่าเทอมให้ภูเยอะขนาดนั้น เอายังงี้ดีกว่าไหมถ้ามีทุนการศึกษาพ่อเห็นด้วย จะเป็นแค่ทุนจ่ายแค่ค่าเรียนก็ได้ ส่วนค่าใช้จ่ายพ่อพอไหว”

ผมก็นั่งคิดว่าจะมีไหมทุนการศึกษาที่ให้ไปเรียนประเทศรัสเซีย เพราะว่าไม่เคยแม้แต่จะได้ยินเลย แล้วถ้ามีเราจะได้ทุนนั้นไหม โอกาสมันน้อยมาก ๆ เลย ก็เลยเกือบจะตัดใจแล้ว แต่ยังไม่ย่อท้อ ลองเปิดอินเตอร์เน็ตค้นหาทุนดู

….ก็อกแก็กๆ

เจอหลายเว็บเลยครับ แต่ที่เป็นประโยชน์กับผม ทำให้ผมมีวันนี้ได้เพราะเว็บแลนด์รัสเซีย (ซึ่งปัจจุบันไม่มีแล้ว) ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านเรื่องราวต่าง ๆ คำถาม คำตอบ ในกระดานสนทนาตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้ายที่มี จนจับความได้ว่าทุนนี้มีให้ไปเรียนสาขาแพทย์อยู่ด้วย และสองปีที่แล้ว (ก่อนหน้าผมจะได้ทุน) มีพี่พลอยได้ทุนสาขาแพทย์ เกณฑ์การสมัครก็ดูไม่ซับซ้อนเกินความสามารถเรา ก็เลยไปคุยกับคุณพ่ออีกครั้งหนึ่ง คุณพ่อก็ตกลงเห็นดีงามด้วยและสนับสนุนเต็มที่

ทีนี้ก็หาข้อมูลว่าสมัครอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้างมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ปิดรับสมัครวันไหน แล้วก็ได้ชวนคุณอ้อม (เพื่อนสมัยมัธยม) มาสมัครด้วยกัน แต่คนละสาขากัน คุณอ้อมก็จะสมัครด้วย เลยเตรียมเอกสารด้วยกัน เรารีบโทรไปตรวจสอบที่สถานทูตรัสเซียว่า ปิดรับสมัครหรือยัง เพราะว่าในเว็บบอกว่า ใกล้จะปิดรับแล้ว เพื่อดูว่าจะทำเอกสารทันไหม ทางเจ้าหน้าที่สถานทูตชื่อคุณเดนนิสก็บอกว่า ขยายเวลารับสมัครนะ เราก็เลยรีบเตรียมเลยไปทำพาสปอร์ตกันกับคุณอ้อม (ผมไม่เคยออกนอกประเทศเลย คุณอ้อมไปเปลี่ยนเล่มพาสปอร์ต) 

หลังจากวันทำพาสปอร์ตคุณอ้อมก็มาบอกว่าจะไม่ไปแล้วด้วยเหตุผลส่วนตัว ผมก็เลยต้องเดินหน้าทำเอกสารตัวคนเดียว แปลเอกสาร รวมถึงใบแสดงผลการเรียนต้องนำมาแปลเอง เพราะว่าจบมาก็ไม่ได้ขอเป็นภาษาอังกฤษไว้เมื่อเข้าไปขอที่โรงเรียน ทางโรงเรียนก็บอกว่าต้องรอทำสองอาทิตย์ซึ่งไม่ทันก็เลยแปลเองเลย

แล้วก็นำเอกสารที่ถ่ายเอกสารทั้งหมดไปรับรองกรมการกงสุลจะมีแบบทั่วไปและแบบด่วน แบบทั่วไปรับเอกสารกลับหลังจากวันที่ยื่นสองวันทำการ ส่วนแบบด่วนยื่นเช้าได้เย็นเลย ส่วนราคาแบบหลังก็สูงกว่าเท่าตัว ก็เลยเลือกแบบปกติแล้ว ก็ให้ส่งกลับทางไปรษณีย์

หลังจากวันที่ยื่นรับรองเอกสารสองวัน ไปรษณีย์ก็มาถึงพร้อมเอกสารหมด..แต่ว่ายังไม่มีใบไหนประทับตรารับรองเลยอ้าว..ซวยแล้ว หรือว่าเราแปลผิด..วันรุ่งขึ้นก็เลยไปที่กงสุลแต่เช้า เจ้าหน้าที่ก็บอกมาว่าบนหัวของเอกสารที่แปลต้องพิมพ์คำว่า Translation วงเล็บไว้ด้วย อ้าว..แล้วจะให้กลับไปปริ้นท์ที่บ้านใหม่หรือครับ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ามีเครื่องพิมพ์ดีดให้ใช้ห้องข้างๆ ก็เลยโล่งใจพิมพ์ปุ๊บปั๊บส่งก็ประทับตราให้ตอนบ่ายก็มารับเลย ผ่านไปอีกอย่างหนึ่ง

ส่วนพาสปอร์ตก็ต้องให้คุณพ่อกับคุณแม่ไปรับด้วย เพราะอายุยังไม่ถึงยี่สิบบริบูรณ์ในช่วงนั้น ให้ผู้ปกครองไปคนเดียวก็ไม่ได้ต้องไปทั้งสองคนอีก แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี

ส่วนใบตรวจสุขภาพตอนแรกคิดว่าต้องเป็นโรงพยาบาลรัฐเท่านั้น แต่ที่จริงโรงพยาบาลไหนก็ได้ ให้แพทย์ระบุว่า เราร่างกายแข็งแรงพร้อมที่จะไปสู้กับความหนาวติดลบที่รัสเซีย และที่สำคัญไม่มีโรคเอดส์ไปแพร่ที่ประเทศของเขา ผมก็ตรวจที่โรงพยาบาลบางนาเป็นโรงพยาบาลเอกชนใกล้บ้านตรงข้ามกันเซ็นทรัลบางนา ใบตรวจสุภาพนี้ก็รายงานเป็นภาษาอังกฤษ ราคารวมแล้วก็สาม-สี่ร้อยบาทเท่านั้น แล้วก็ให้คุณพ่อช่วยไปประทับตรารับรองแพทย์ที่ตรวจที่กระทรวงสาธารณสุข

ช่วงนั้นเป็นช่วงสงกรานต์ การรอเอกสารนานทำให้ทรมานใจมาก ๆ แต่สุดท้ายก็ได้เอกสารครบเรียบร้อย พร้อมกรอกใบสมัครเสร็จ ก็โทรไปนัดคุณเดนนิสว่า วันพรุ่งนี้จะเข้าไปส่งใบสมัครนะครับ คุณจะอยู่ที่สถานทูตไหมอะไรแบบนี้ เราเข้าสถานทูตไปแต่เช้าคุณเดนนิสเดินมาเปิดประตู ระหว่างทางผมได้ซื้อซูชิเป็นกล่องๆแถวๆสถานีรถไฟฟ้ามายังไม่ได้ทานก็ถือเข้าสถานทูตไปด้วยเลย ไม่ได้ห้ามนำอาหารเข้า คุณเดนนิสตรวจเอกสารและให้เติมเบอร์โทรศัพท์และอีเมล์ในใบสมัคร

หลังจากนั้นร่ำลาคุณเดนนิสและรอประกาศผลทุนประมาณเดือนกรกฏาคมสิงหาคม ซึ่งวันประกาศผลก็แล้วแต่ปีด้วยครับ บางปีก็ประกาศเอาตุลาคมเลย..

ขอขอบคุณ
คุณพ่อคุณแม่ที่สนับสนุน
คุณกิ๊ก เพื่อนที่ มธ. ที่มาบอกเรื่องเรียนแพทย์ที่รัสเซีย และไปกงสุลกับผม และช่วยให้กำลังใจ
คุณส้มโอ เพื่อนที่ มธ. ที่ให้ข้อมูลดีๆ
คุณอ้อม เพื่อนสมัยเรียน ร.ว.บ. ที่ไปสถานทูตด้วยกันและช่วยโทรไปคุยกับคุณเดนนิส (คนนี้ใส่กางเกงขาสั้นรองเท้าแตะเข้าสถานทูตเลย)
และอีกหลายๆท่านที่ไม่ได้กล่าวถึง

ริมแม่น้ำโดน

ไปสวนสนุกกับเพื่อนร่วมคลาสเรียนปีเตรียม
มีไทย เวียดนาม ปากีสถาน และเสื้อดำคนกลางคือคนเชชเนียร์

นั่งเครื่องเล่น นำ เวียดนาม - กวาง  ไทย - ไรฮาน อินโดนีเซีย - ผม


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม