สมัครทหารอเมริกา (Army Reserve) แบบพาร์ทไทม์: ประสบการณ์ตรง ตั้งแต่เอกสารจนถึงสาบานตน 🎖️

หลายคนอาจเข้าใจว่าทหารมีแต่ฟูลไทม์ ต้องอยู่ในค่ายตลอด 24 ชั่วโมง และอาจถูกส่งไปประจำการที่ไหนก็ได้ตามคำสั่งเบื้องบน แต่ที่อเมริกา 🗽 ยังมีทหารพาร์ทไทม์ที่เรียกว่า National Guard และ Reserve Unit ซึ่งโดยปกติจะทำงานเพียง 2 วันต่อเดือน (เสาร์-อาทิตย์) และ 14 วันต่อปี โดยไม่ต้องย้ายเมืองหรือรัฐไปเรื่อยๆ แต่จะประจำการที่ฐานทัพใกล้บ้าน

ใบรับสมัครทหารบกสหรัฐฯ

สวัสดิการของทหารพาร์ทไทม์

ยื่นขอสัญชาติอเมริกันได้ทันที (และเมื่อได้สัญชาติแล้ว สามารถยื่นขอกรีนการ์ดให้พ่อแม่หรือพี่น้องได้)
ค่าเล่าเรียนฟรี สำหรับตัวเองหรือครอบครัว 💵
โบนัสเซ็นสัญญา ในบางอาชีพ
สินเชื่อบ้านดอกเบี้ย 0% ผ่านโครงการ VA Loan
เงินสนับสนุนการศึกษาหรือการฝึกอาชีพ และสวัสดิการอื่นๆ อีกมากมาย


งานในกองทัพไม่ได้มีแค่การรบ!

หลายคนอาจคิดว่าทหารต้องออกรบเสมอ แต่ความจริงแล้ว มีอาชีพให้เลือกมากมายกว่าร้อยอาชีพ โดยเฉพาะในกองทัพบก (US Army) อย่างไรก็ตาม คนที่ถือกรีนการ์ดจะถูกจำกัดไม่ให้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลลับหรือความมั่นคงของชาติ แต่งานที่สามารถทำได้ก็มีหลากหลาย เช่น

  • สายช่าง: ช่างซ่อมรถไฟ, รถราง, รถถัง, เครื่องบิน, เฮลิคอปเตอร์, ช่างไฟ, ช่างประปา, ช่างซ่อมถนน
  • สายการแพทย์: ผู้ช่วยแพทย์, พยาบาล, ผู้ช่วยผ่าตัด, ผู้เชี่ยวชาญกายภาพบำบัด, เวชระเบียน
  • สายอื่นๆ: นักดนตรี, ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ, ผู้จัดการแวร์เฮาส์, พ่อครัว, พลขับ, ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

🔹 ไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือประสบการณ์มาก่อน เพราะกองทัพจะจัดอบรมตามอาชีพที่เลือก โดยพิจารณาจากคะแนนสอบ ASVAB (Armed Services Vocational Aptitude Battery)
🔹 ระหว่างการฝึกจะได้รับเงินเดือนและสวัสดิการที่พัก หากมีครอบครัวหรือภาระค่าใช้จ่าย
🔹 สามารถย้ายตำแหน่งงานหรือเลื่อนระดับไปเรียนต่อ OCS (Officer Candidate School) หรือ WOCS (Warrant Officer Candidate School) ได้


กระบวนการสมัครเข้าเป็นทหารพาร์ทไทม์

กระบวนการสมัครเข้าเป็นทหารมีหลายขั้นตอน และเอกสารที่ต้องใช้ คล้ายกับการยื่นขอวีซ่า Immigration ที่สถานทูต

📜 ขั้นแรก คือ เทียบวุฒิการศึกษา ควรใช้บริษัทที่อยู่ในเครือสมาคม NACES เช่น FIS-Web ซึ่งสะดวกกว่าบริษัทอื่นๆ
🎖️ ถ้ามีวุฒิปริญญาตรีขึ้นไป กองทัพบกจะให้ยศ E4 Specialist ทันที กองทัพอื่น ๆ E3

ขั้นตอนการสมัครและสอบ ASVAB

📌 เอกสารที่ต้องใช้: บัตรกรีนการ์ด (สำคัญที่สุด ต้องมี) !!, SSN, Credit History (สอบถามรายการเอกสารที่ต้องใช้อีกทีกับสัสดีใกล้บ้าน)
📌 สอบ ASVAB ได้ 2 แบบ

  • MEPS (Military Entrance Processing Stations) ไปสอบที่ศูนย์ MEPS 
  • PICAT (ออนไลน์) ทำข้อสอบที่บ้านแต่ต้องสอบไปยืนยันผล (ฉบับย่อ) ที่ MEPS อยู่ดี

🎯 จากนั้นเข้าสู่กระบวนการตรวจสุขภาพที่ MEPS
🔹 ตรวจสายตา, การได้ยิน, เป่าลมวัดแอลกอฮอล์, ตรวจเลือด, ตรวจสุขภาพร่างกาย, ทดสอบสมรรถภาพพื้นฐาน



เรื่องเล่าประสบการณ์สมัครจริง


Air Force หรือ Army? เริ่มต้นที่ไหนก่อนดี? 🛫

ตอนที่ผมได้เอกสารครบทุกสิ่งอย่างยกเว้นบัตรกรีนการ์ดตัวจริง (I-551) ก็ลองไปติดต่อกองทัพอากาศก่อน 🛫 เพราะเห็นงานสายไอทีเยอะ แล้ววางแผนไว้ว่าเข้าไปแล้ว ฝึกเสร็จ ได้สัญชาติแล้วน่าจะย้ายสายงานได้ง่าย ไปถึงก็เข้าที่ทำการสัสดีทัพอากาศเลย คุยไปคุยมาสรุปถ้าจะทำพาร์ทไทม์ต้องไปอีกห้องข้างๆ เขาก็พาเดินไปแล้วก็คุยอีกรอบ เล่าเรื่องราวเสร็จ สัสดีก็บอกว่า เดี๋ยวถามหัวหน้าให้ว่าใช้วีซ่าที่เป็น Temporary I-551 ได้ไหม (ตัววีซ่าที่ได้มาจากสถานทูตจะเป็นกรีนการ์ดชั่วคราว 1 ปี) แต่ก็สัสดีหายเงียบไปครับ ผมก็เลยรอกรีนการ์ดตัวจริง 💳 ซึ่งใครใจร้อนแบบผมก็ต้องได้กรีนการ์ดตัวจริงมาก่อนครับ

รอเอกสาร vs. ความอดทนที่เริ่มหมดลง

รอประมาณเกือบๆสองเดือน ซึ่งได้ลองพูดคุยคนที่ได้กรีนการ์ดล็อตโต้ก็โดนกันทุกคนที่เข้ามาที่รัฐวอชิงตันช่วงเดียวกัน (เราไม่ใช่กรีนการ์ดล็อตโต้แต่พอหลังจากได้รับวีซ่ามาพวกการทำเอกสาร ระยะเวลารอเอกสารต่างๆ มันจะแบบเดียวกันหมด) ทีนี้พอได้กรีนการ์ดตัวจริงก็โทรไปคุยกับสัสดีใหม่ สัสดีก็ให้อีเมลส่งเอกสารบางตัวใหม่ และเขาขอตัว credit history ด้วยครับ เป็นเอกสารจากพวกเครดิตบูโรต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถเอาเลขประกันสังคม SSN ไปโหลดมาจากเว็บได้เลย

สอบ ASVAB: ได้คะแนนสูงแล้วไง? สัสดีก็หายไปอีก!

ส่งเอกสารเสร็จ วันรุ่งขึ้นเขาก็ถามว่าพร้อมสอบไหม จะสอบ ASVAB ✍🏼 ที่ Military Entrance Processing Stations - MEPS หรือเป็น PICAT คือ ASVAB นี่ล่ะแต่ออนไลน์จากที่บ้านได้ ผมก็บอกสอบเลยก็ได้ เอาแบบออนไลน์แล้วกัน สัสดีก็ส่งลิงก์กับรหัสเข้าสอบมาให้ การสอบแบบ PICAT ไม่จับเวลาเลยทำได้สบายๆ ไม่เครียดครับ คะแนนก็เลยออกมา 77 สูงปรี๊ด แต่ๆๆ เราจะต้องไปสอบยืนยันอีกรอบที่ MEPS หลังจากสอบไม่เกิน 30 วัน ซึ่งสอบเสร็จบอกคะแนนปั๊บสัสดีผมก็หายไปเลย เคว้งเลยที่นี้ ได้แต่นั่งรอ ผมก็รอผ่านไปสามสัปดาห์กว่าถึงได้รับการติดต่อกลับมาว่าเขาลาไปจัดการเรื่องครอบครัว และขอเอกสารเดิมที่ผมเคยส่งให้แล้วซึ่งผมส่งให้ไปอีกครั้ง

กองทัพอากาศช้าไปไหม? เปลี่ยนไปลองคุยกับกองทัพบกดีกว่า!

แต่ระหว่างรอ ผมก็ได้อ่านประสบการณ์การสมัครทหารของหลายๆคนในกลุ่มกรีนการ์ดล็อตโต้ ที่ส่วนมากจะสมัครทหารบกกับจ่ามิกกี้ ไม่ก็จ่าจอน ที่เป็นสัสดีคนไทยใน US Army ⭐ (ตอนนี้ทั้งคู่ไม่ได้เป็นสัสดีแล้ว)

ผมก็แบบทัพอากาศช้าแฮะ ลองคุยกับทัพบกดีไหม วันที่สัสดี Airforce ติดต่อกลับมานั่นแหละ ก็เลยติดต่อจ่าจอนแห่ง US Army ⭐ ไปอีกคน ซักไซร้เรื่องว่าเรามีแค่กรีนการ์ดจะมีสิทธิ์เข้าฝึกเป็นนายร้อยสัญญาบัตรได้ไหม จ่าจอนก็ตอบว่าสามารถทำได้แต่ต้องมีสัญชาติอเมริกาก่อน ซึ่งถ้าฝึก Basic Combat Training - BCT (10 สัปดาห์) กับ Advanced Individual Training - AIT (ระยะเวลาฝึกตามอาชีพที่เราเลือก) ก็น่าจะได้สัญชาติเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็ทำเอกสารไป Officer Candidate School - OCS 12 สัปดาห์ต่อได้ แต่จะมีกรอบเวลารอคอยนิดหน่อย คุยไปคุยมาก็ยังคิดไม่ตก เลยตัดสินใจว่าจะขอไปดูที่สำนักงานสัสดีที่แถวบ้านก่อนแล้วกัน ผมก็เข้าไปแบบไม่ได้นัดอะไรล่วงหน้า

"อยากไปฝึกตอนไหน? เร็วที่สุดเลยไหม?"

พอเข้าไปก็เจอสัสดีแดเนียล💂🏼 เป็นชาวเกาะกวม ซึ่งเป็นเกาะหนึ่งของอเมริกา อยู่แถวๆ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้บ้านเราอ่ะแหละ คุยไปคุยมาโดนตกท่าไหนก็ไม่รู้ครับ เขาถามว่าอยากไปฝึกตอนไหนล่ะ เร็วที่สุดเลยไหม ผมก็บอกเอาเร็วที่สุดเลย เขาเลยรับปากจะเร่งให้ จะพยายามทำเอกสารให้ด่วน ลืมบอกไปว่าทหารบกจำกัดอายุที่ 35 ปี ผมอายุ 36 มันเลยเกณฑ์รับไปแล้ว แต่ทางสัสดีก็ทำเรื่องผ่อนผันอายุให้ได้ สรุปกลายเป็นว่าสมัครกับสัสดีทัพบกแถวบ้านไปเฉยเลย ก็ไม่ได้ทำเรื่องกองทัพอากาศต่อ

สอบ ASVAB อีกรอบ คะแนนลดลงอีก! 😅

จ่าแดเนียลก็บอกต้องไปสอบ ASVAB ✍🏼ใหม่อีกรอบนะ จะลองฝึกทำอีกรอบไหม ก็ลองทำใหม่แบบสั้นๆ ตรวจคะแนนมาได้ 68 เอ้ย คะแนนลดมาอีกเยอะเลยวุ้ย แต่เราก็รู้แหละว่าพาร์ทคำศัพท์ไม่ได้ เป็นศัพท์ยากแบบ SAT/GMAT ที่ไว้สอบเข้าป.โทเลย (แนะนำให้ท่องลิสต์คำศัพท์โพสต์ก่อนหน้า) ซึ่งตอนทำ PICAT เราเจอศัพท์ที่เราพอรู้เลยคะแนนดี จากนั้นสัสดีก็ถามว่า ไปสอบจริงเลยไหม พฤหัสนี้หรือจันทร์หน้าดี วันพฤหัสนี้เลยไหม ซึ่งตอนที่ไปคุยอยู่นั้นเป็นวันอังคาร ผมเลยตอบไปว่า วันจันทร์ก็ดีจะได้ไปจำศัพท์เพิ่มอีกหน่อย แต่สุดท้าย สัสดีก็กล่อมให้ไปวันพฤหัส รีบไปอี๊กกก แล้วก็ให้แผ่นพับมาเกี่ยวกับเว็บที่ให้เข้าไปเตรียมตัวสอบเพิ่ม คือ https://www.march2success.com/ เว็บนี้ใครจะสอบ SAT ก็เข้าไปใช้ได้ครับฟรีเลย ดีมากๆ

แต่พอวันพฤหัสเขาก็โทรมาบอกว่าเต็ม จองสอบให้ไม่ได้เลย ให้เข้ามาทำเอกสารก่อน ซึ่งก็ขอเอกสารเพิ่มอีกนิดหน่อย แล้วก็บอกว่า สอบ ASVAB ✍🏼วันอังคารหน้านะ ผมก็ว่าดี จะมีเวลาเตรียมท่องศัพท์ ทำโจทย์เลขให้คล่องๆ นานขึ้น ก็นั่งทำเอกสารกันตั้งแต่บ่ายๆ ถึง ทุ่มกว่าๆ

สอบ ASVAB ที่ MEPS: คะแนนลดลงอีก! 😵

พอวันสอบจ่าอีกคนที่อยู่ในสเตชั่นเดียวกับจ่าแดเนียลก็ขับรถ🚙พาไปสอบที่ MEPS ของซีแอตเทิล เพราะว่าจ่าคนนั้นก็มีคนไปสอบเหมือนกัน ห้องสอบจริงคือตึงเครียดว่าสอบออนไลน์ PICAT และแอร์เย็นมาก นึกไม่ถึงว่าจะเย็นเหมือนที่อ่านมาจากประสบการณ์คนอื่นทั้งที่คนละเมือง หลังจากสอบเสร็จก็เดินออกเองไม่ได้ ต้องรอจ่าแดเนียลมารับ เขามารับก็บอก ยินดีด้วยสอบผ่านนะ ได้ 59 อีกคนที่มากับคุณสอบไม่ผ่าน โอย..ยิ่งสอบคะแนนยิ่งลด ไปพลาดตรงพาร์ทที่เก็งข้อสอบเยอะๆนี่ล่ะครับ คำศัพท์กับอ่านตีความย่อหน้า

จ่าขับรถพากลับมาที่สำนักงานสัสดี แล้วบอกกับเราว่า จะต้องทำเอกสารเพิ่มอีกนิดหน่อยนะ สำหรับการส่งตัวไปตรวจสุขภาพวันพฤหัส คุณต้องไปนอนโรงแรมที่เราจะจัดไว้ในตั้งแต่คืนวันพุธ วันนี้ได้เจอจ่ามอริสสัน หัวหน้าสัสดีจ่าแดเนียล แต่ประจำการอยู่อีกสเตชั่น เขามาช่วยทำเอกสารเพื่อเคสเราให้ไวขึ้น ผม จ่าแดเนียล จ่ามอริสสัน นั่งทำเอกสารแล้วก็อนุมัติกันตรงนั้นเลยถึงสองทุ่มกว่า ผมโคตรซึ้งน้ำใจ แต่จ่ามอริสสันก็บอกพรุ่งนี้ (วันพุธ) ต้องสอบ ECLT 🔤นะ สอบภาษาอังกฤษ ถ้าคุณคุยกับผมได้ ข้อสอบก็น่าจะง่ายสำหรับคุณแหละเนาะ แล้วก็ย้ำว่าตอนเย็นก็ไปนอนโรงแรมเพื่อตื่นตี 4:15 วันพฤหัส จะมีรถบัสพาไปส่ง MEPS เพื่อตรวจสุขภาพเลย ผมก็ ห๊ะ ไวแท้ บอกกระทันหันแบบนี้ ไม่ให้เตรียมตัวอะไรกันเลยรึ ที่บอกว่าเอาไวที่สุดแต่ก็บอกล่วงหน้าซะกระชั้นชิดเลยน้าา ดีที่อ่านจากของคุณ Chanoknan Inklad ในกลุ่มกรีนการ์ดล็อตโต้ ว่าต้องสอบและได้คะแนน 75 ขึ้นถึงจะผ่าน

หัวหน้าสัสดีก็ยังมาถามอีกว่าจะเข้าโปรแกรม O9M ไหม เป็นโปรแกรมที่จะเตรียมตัวสอบให้เราคะแนนสูงขึ้นในส่วนที่เราอ่อน ผมเห็นคะแนนพาร์ทภาษาคุณไม่ค่อยดีเท่าที่คุณอยากได้ใช่ไหม เพราะถ้าจะเข้าโรงเรียนนายร้อย OCS ต้องได้ GT 110 คะแนน ซึ่งครั้งล่าสุดผมได้แค่ 104 ผมก็คิดในใจว่าถ้าได้เอา PICAT รอบแรกคงผ่านไปหมดแล้วแหละ แล้วก็ตกลงกับตัวเองว่า ถ้าสอบ ECLT ไม่ถึง 75 ก็จะลองเข้าไปฝึกเพิ่มดูแล้วกัน ซึ่งต้องไปกินนอนในค่ายทหารใช้เวลา 4 - 12 สัปดาห์เลยทีเดียว แต่ที่ดีก็คือเขาให้เงินเดือนและสามารถยื่นเอกสารขอสัญชาติได้เลย

วันรุ่งขึ้นจ่าแดเนียลโทรมาแต่เช้าให้เราไปทำเอกสารเพิ่ม แต่เราก็บอกให้อีก 1 ชั่วโมงมารับได้ไหม ยังไม่ได้อาบน้ำแต่งตัวเลย ผมทำอะไรเสร็จก็โทรบอกเขาว่ามารับได้เลยนะ แต่สรุปเขาก็มารับ 🚙 ไปสอบเลยตามเวลาที่นัดเดิม ไม่ได้ให้ผมทำเอกสารอะไรเพิ่ม จ่าบอกแค่ว่า ขอโทษทีที่มาช้า ผมตื่นมาทำเอกสารให้ตั้งแต่ 8 โมงเช้าเลย พอไปถึงห้องเดิมที่สอบ ASVAB นั่นแหละ เจ้าหน้าที่คุมสอบก็ให้นั่งหน้าคอมเพื่อสอบภาษาอังกฤษ ข้อสอบมีอยู่ประมาณ 38 ข้อ ✍🏼 ถ้าจำไม่ผิด อ่าน 20 ข้อ ฟัง 18 ข้อ ภายใน 45 นาทีมั้ง ทำไปก็นึกในใจไม่ง่ายนะเนี่ย ไปเอาที่ไหนมาบอกว่าบอกง่ายฟะ ทำเสร็จจ่าแดเนียลก็มารับ วันนั้นรถติดมากทั้งขาไปและขากลับเพราะมีแข่งเบสบอล พอกลับสำนักงานสัสดี ผมก็ถามคะแนน เขาก็เข้าไปดูในระบบให้สรุปได้ 80 กว่าๆ เลยไม่ต้องเข้า O9M แล้วเพราะคะแนนเกินทุกอย่าง

ตอนแรกจ่าแดเนียลจะขับรถพาไปส่งที่โรงแรมเลย แต่จ่ามอริสสันหัวหน้าสัสดีคนเมื่อวานบอกให้ไปหาเขาก่อน เขาจะอธิบายขั้นตอนการตรวจร่างกายให้ฟัง ซึ่งหัวหน้าสัสดีอยู่อีกสำนักงานเมืองใกล้ๆ ทางใต้ สัสดีก็ต้องขับรถพาไปอีก พออธิบายเสร็จหัวหน้าสัสดีก็บอกเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปที่ MEPS ด้วยนะ จะไปช่วยเลือกงานให้ ในใจเราก็คิดละ โอ้โห ดีจัง ตอนเข้าไปฝึกจริงคงโดนเชือดแหงๆ ไม่น่าใจดีแบบนี้ 🤣 แล้วสัสดีก็พากลับเมืองเพื่อไปส่งที่โรงแรม Hilton🏩 ว้าว โรงแรมหรูซะด้วย รีเซปชั่นของฝั่งทหารจะแยกกับรีเซปชั่นปกติเลย รีเซปชั่นเขาก็อธิบายไวๆเหมือนท่องมาหลายปีเพราะเป็นคำที่ต้องพูดให้ทุกคนฟัง แล้วก็ให้คีย์การ์ดกับบัตรกินอาหาร 🍱 ในร้านอาหารในโรงแรมนั่นแหละมา เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี

คืนที่เราไปพักคือคนเยอะมาก จนโรงแรมบอกว่าปกติจะได้นอน 1-2 คนต่อห้อง แต่วันนี้บางห้องอาจจะต้องนอน 3 คนนะ สุดท้ายเราก็ได้นอนกับแบรดลีย์สองคน แบรดลีย์จะไป MEPS เพื่อเซ็นสัญญาอย่างเดียว เพราะสอบและตรวจร่างกายเรียบร้อย แต่ไม่ผ่านเพราะโรคประจำตัวตั้งแต่เด็กและเพิ่งได้อนุมัติผ่อนผันโรคนั้น แบรดลีย์บอกว่าจะเป็นทหารปีนใหญ่ ส่วนเราก็บอกยังไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรแต่ไม่รบแน่นอน

Lobby โรงแรม

ห้องนอนพร้อมเตียงนุ่ม ๆ

Fish and Chips บริการฟรี


อาหารเช้า ไม่ค่อยหิวเพราะเช้าเกิน

ตี 4:15 วันรุ่งขึ้นก็ต้องตื่นล้างหน้าแปรงฟัน ถ้ารูมเมตไม่ตื่นก็ต้องปลุก เพราะต้องลงมาเช็คเอาท์ด้วยกัน แล้วก็กินข้าวโรงแรม 🍽 อีกรอบและนั่งรถบัสไป MEPS ที่เดิมที่สอบมาสองวันแล้วนี่ล่ะ สรุปไป 3 รอบ 3 วันติด แล้วที่สเตชั่นก็บอกว่า วันนี้มีคนมา MEPS เยอะกว่าปกติ (ลืมบอกไปว่าผู้สมัครทุกเหล่าก็จะมานอนโรงแรมเดียวกัน ไปพร้อมกัน)

วันนี้ก็จะวุ่นวายกว่าปกติ ไปถึงตี 5 กว่าเข้าแถวเข้าอาคาร บางคนจะต้องสอบ ASVAB สอบภาษา ตรวจร่างกาย ก็แบ่งกันไปตามที่ตัวเองจะต้องทำ พอเข้าส่วนที่ตรวจร่างกาย ก็ต้องเดินสลับห้องไปมาไม่มีลำดับ แล้วแต่ใครจะโดนเรียกไปไหน มีตรวจสายตา ตาบอดสี การฟังให้ฟังเสียงบี๊บๆ แล้วกดปุ่ม เป่าลมวัดแอลกอฮอล์🧪 วัดชีพจร ความดัน ส่วนสูง น้ำหนัก เจาะเลือดตรวจเอดส์ แล้วก็หาเข้าไปหาหมอ👨🏻‍⚕️ ซักประวัติการแพทย์ การแพ้ แล้วก็ให้เราแก้ผ้าเหลือแต่กุงเกงใน ตรวจทั้งตัว ดูหัว ดูหู อก ฟังหัวใจ ฟังปอด ดูการเคลื่อนไหวร่างกาย ให้สควอท เดินเขย่งปลายเท้า เดินด้วยส้นเท้า แล้วก็ให้ถอดกุงเกงใน ดูอวัยวะเพศ ดูก้น

พอจบ หมอก็บอก ยินดีด้วยคุณผ่านแล้ว เราก็ต้องเดินไปที่สัสดีประสานงานในชั้นเดียวกัน ซึ่งเป็นอีกทีมที่มาทำเรื่องเลือกอาชีพและเซ็นสัญญา ไปถึงเขาก็ไล่เราไปเก็บลายนิ้วมือ แล้วก็กลับมานั่งรอ

เลือกอาชีพใน Army: สัสดีขี่ม้าขาวมาช่วย!

นั่งรอจนเลยอาหารเที่ยง กว่าจะได้เข้าไปเลือกอาชีพ เขาก็ถามเราจะเลือกอะไร ผมก็ไม่ได้เลือกอะไรไว้เลย เลยโดนไล่ให้ไปโทรคุยกับจ่าแดเนียล สัสดีผู้ดูแลเคสเรา แล้วสัญญานโทรศัพท์แถวนั้นก็ไม่ค่อยมี โทรไม่ได้เลย ได้แต่ส่ง sms คุย จ่าแดเนียลก็งงๆ เพราะดูข้อมูลผมจากในระบบไม่ได้ ผมก็เอาละ เอาไงดีวะกู สรุปจ่ามอริสสันหัวหน้าสัสดีคนเก่าขับรถมา MEPS แล้วเดินเข้ามาบอกว่า ผมมาเพื่อช่วยคุณ

ผมก็แบบ โอ้โห เหมือนอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วย เครียดตั้งนาน ตอนนี้เบาใจเลย จ่าก็พาผมไปนั่งเลือกกับเขา 5 อาชีพ ซึ่งค่อนข้างยากกว่าปกติเพราะว่าถ้าเป็นทหารเต็มเวลามันไม่ต้องมาดูว่าอยู่ฐานทัพเมืองไหน ของผมต้องดูด้วยว่ามันเป็นอาชีพที่อยู่ในฐานทัพแถวที่เราอยู่อาศัยไหม ถ้าไม่ใช่เราจะต้องขับรถกี่ชั่วโมงถึง จะคุ้มค่าน้ำมันไหม เพราะทำงานเดือนละแค่ 2 วัน พอได้ครบหัวหน้าสัสดีก็เอาไปส่งให้สัสดีประจำ MEPS แล้วไล่เราไปนั่งรอด้านนอก

สักพักทหารที่ทำเรื่องก็เดินออกมาบอกว่า ได้อาชีพแรกที่เลือกเลยนะ ช่างซ่อมเฮลิคอปเตอร์ Chinook 🚁 (บางทีก็อาจจะได้ซ่อม Blackhawk ด้วยซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้ทำครับ) 🎉 วันเดินทางเริ่มไปฝึก 30 ต.ค. คุณโอเคไหม ผมก็อึ้งๆ เอ้ยได้เลย ทำไมง่ายจัง คนอื่นยังต้องต่อรองอะไรเยอะแยะเท่าที่อ่านมา ผมเลยโอเคๆ ครับๆ เอาๆ

ไปนั่งเซ็นสัญญา เขาก็อธิบายคุณได้โบนัสเดือนละ 200 ดอล โบนัสเซ็นสัญญา 20,000 ดอล 🎊 (ซึ่งเรตนี้สูงสุดเท่าที่ทหาร Reserve จะได้แล้วครับ ถ้าทหารเต็มเวลาสูงสุดได้ถึง 50,000) แบ่งจ่ายตามนี้ๆ นะ ผมฟังไม่ทัน 😅 มัวแต่คิดว่า เอ้ย ตอนเลือกไม่เห็นรู้ว่าจะได้โบนัสด้วย เลือกเอาที่อยากลองทำเฉยๆ ดีจังแฮะ สัสดีเขาก็พูดไวๆ เร่งๆ บอกว่างงตรงไหนก็ไปถามสัสดีคุณเอาเองแล้วกัน

แล้วก็เซ็นสัญญาออนไลน์หลายอย่าง เสร็จแล้วก็ไปสาบานตน เข้ากองทัพว่าจะปกป้องศัตรูนู่นนี่นั่น จะทำตามคำสั่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาและผู้บังคับบัญชา ฯลฯ แล้วก็รับสัญญาที่เซ็นกลับบ้าน จ่าแดเนียลสัสดีคนเดิมก็มารับ มาถึงก็บอกยินดีต้อนรับสู่กองทัพบก⭐🎖️ ผมก็บอกจ่าว่า ขอบคุณมากๆ ไม่รู้จะขอบคุณยังไง เราคุยกันแค่สัปดาห์ที่แล้วเอง ผ่านมาสัปดาห์เดียวผมได้เซ็นสัญญาแล้ว

หลังจากนั้นจ่าก็บอกเดี๋ยวสัปดาห์หน้าจะมารับไปดูที่ฐานทัพกับหน่วยที่คุณจะทำงานหลังฝึกจบนะ ไปแนะนำตัวไว้เลย เราก็เอ้ยมีแบบนี้ด้วยหรอ แต่สรุปจ่าที่เป็นแอดมินจากหน่วยที่เราสังกัดโทรมาหาโดยตรงและผมก็ไปที่หน่วยเองเลยในภายหลังครับ…🎖️


สรุป: ภารกิจสมัครทหาร Army Reserve 🇺🇸🎖️ สำเร็จแล้ว!

🎖️ จากจุดเริ่มต้นที่โดน Air Force ดองเคส → เปลี่ยนไป US Army → สมัคร → สอบ → เซ็นสัญญา → ได้ฝึก BCT ภายในเวลาแค่ 1 สัปดาห์!! 😲

📌 เริ่มที่กองทัพอากาศ (Air Force) แต่ไม่คืบหน้า

  • ติดต่อ Air Force หวังทำงานสายไอที → ต้องรอกรีนการ์ดตัวจริงก่อน
  • ได้กรีนการ์ดแล้ว แต่สัสดียังล่าช้า → ตัดสินใจเปลี่ยนไป Army

📌 กองทัพบก (Army) มาไว โดนตกทันที!

  • เจอ สัสดีแดเนียล ถามว่า "อยากไปฝึกเร็วสุดไหม?" → ตอบตกลงทันที
  • ติดปัญหาอายุเกิน 35 ปี → สัสดีทำเรื่องผ่อนผันให้ได้

📌 สอบ ASVAB หลายรอบ คะแนนลดลงเรื่อยๆ 😵

  • PICAT (ออนไลน์) ได้ 77
  • MEPS รอบแรก ได้ 68
  • MEPS รอบสอง เหลือ 59

📌 เลือกอาชีพ - สัสดีขี่ม้าขาวมาช่วย!

  • ตัดสินใจไม่ทัน โทรหาสัสดีไม่ได้
  • จ่ามอริสสัน ขับรถมาช่วยเลือกอาชีพให้!
  • ได้เป็น ช่างซ่อมเฮลิคอปเตอร์ Chinook 🚁

📌 เซ็นสัญญา + โบนัส 20,000 ดอลลาร์! 💰

  • โบนัสเซ็นสัญญา $20,000 + โบนัสรายเดือน $200
  • เข้าสู่พิธีสาบานตนอย่างเป็นทางการ 🎖️

📌 จากสมัครถึงเซ็นสัญญา ใช้เวลาแค่ 1 สัปดาห์!

  • เปลี่ยนจาก Air Force → Army
  • สมัครแบบงงๆ แต่ได้งานที่ดี พร้อมโบนัส!
  • เตรียมตัวฝึก Basic Combat Training (BCT) วันที่ 30 ต.ค.! 🏋️‍♂️🔥


ใบปะหน้าแฟ้มสัญญาทหาร ฝึกทั้งหมด 29 สัปดาห์ สำหรับอาชีพช่างเฮลิคอปเตอร์ Chinook


ทดสอบ OPAT ก่อนส่งตัวเข้าค่ายทหาร! 🏋️‍♂️🔥



ก่อนที่จะส่งตัวเข้าค่ายทหารถึงคิวทดสอบ สมรรถภาพร่างกายก่อนเข้าค่ายทหาร 🫡 การทดสอบนี้เรียกย่อๆ ว่า OPAT (Occupational Physical Assessment Test) ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ด่านหลัก

1️⃣ กระโดดไกลสองขา 🏃 → กระโดดให้ไกลที่สุดจากจุดเริ่มต้น
2️⃣ โยนลูกบอลหนัก 2 กก. 🏀🤾 → นั่งหลังติดกำแพงแล้วโยนไปข้างหน้าให้ไกลที่สุด
3️⃣ ยกน้ำหนัก Deadlift 🏋️‍♂️ → ยกเวทขึ้นตามรูปแบบที่กำหนด
4️⃣ Shuttle Run 🏃‍♂️👟 → วิ่งระหว่างสองจุดตามรอบที่กำหนด

🟡 คะแนนแบ่งเป็น 3 ระดับ จากต่ำสุดไปสูงสุด:

  • Moderate (สีทอง) ⭐ สำหรับอาชีพทั่วไป
  • Significant (สีเทา) ⚙️ สำหรับงานที่ใช้กำลังกายระดับกลาง
  • Heavy (สีดำ) ⚔️ สำหรับสายรบและหน่วยรบพิเศษ
ข้อมูล OPAT ทหารบกสหรัฐฯ   Photo: JBSA Photo Gallery


ข้อมูล OPAT ทหารบกสหรัฐฯ ในแต่ละระดับ ดำ เทา ทอง ขาว  

📝 ผลทดสอบวันนี้:
💪 สัสดีแดเนียลจัดให้ลองระดับ Heavy (สีดำ) หมดเลย ทั้งที่ งาน 15U (ช่างซ่อมเฮลิคอปเตอร์) ใช้แค่ระดับสีทองก็พอ
กระโดดไกลสุด 2 เมตร
โยนลูกบอลได้ 4.5 เมตร (ตอนแรกนึกว่าหลังต้องติดกำแพงตลอด แต่จริงๆ ยื่นตัวออกมาโยนได้)
ยกน้ำหนักได้ 160 ปอนด์ 🏋️‍♂️
Shuttle Run วิ่งไป 43 รอบ (6-2) แบบเหนื่อยสุดๆ 🤢 จุกและไอหนักเพราะอากาศเปลี่ยน เสมหะในปอดเยอะ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม